head-banhardsumlan207
วันที่ 18 เมษายน 2024 9:29 AM
ยินดีต้อนรับเข้าสู่เว็บไซต์ โรงเรียนบ้านหาดสำราญ มิตรภาพที่ 207
โรงเรียนบ้านหาดสำราญ มิตรภาพที่ 207
หน้าหลัก » นานาสาระ » รอรถกลับบ้าน

รอรถกลับบ้าน

อัพเดทวันที่ 25 ธันวาคม 2020

รอรถกลับบ้าน

รอรถกลับบ้าน

รอรถกลับบ้าน “มานั่งรอรถเมล์เหมือนกันหรอคะ”

“ใช่ครับ บ้านผมอยู่แถวพรานนก”

“อ้าวรถเมล์แถวพรานนกเพิ่งผ่านไปเมื่อกี้เองนะคะ แบบนี้คุณก็ต้องรออีกนานเลยนะสิ”

“ไม่เป็นไรครับ ผมตั้งใจจะรอรอบต่อไปอยู่แล้ว”

 

ผมมารอรถเมล์เวลาเดิมทุกวันทั้งๆที่มีเวลาอื่นอีกมากที่จะทำให้ผมได้กลับบ้านไวขึ้น แต่ผมก็ตั้งหน้าตั้งตารอรอเพียงแต่รถเมล์รอบนี้เพราะผมคิดว่าผมไม่ได้รีบ ถึงผมจะต้องนั่งรอรถเมล์เป็นชั่วโมง 2 ชั่วโมงผมก็ยอม เพราะรถเมล์มันมีมาเรื่อยๆผ่านคันนี้ไปยังไงก็ต้องมีคันอยู่ดี ไม่จำเป็นเลยที่ผมจะต้องจริงจังกับเรื่องการรอรถเมล์ สำหรับผมคนอื่นอาจจะมองว่า ทำไมผมถึงต้องเสียเวลานั่งรอรถเมล์เป็นชั่วโมงทั้งๆที่ถ้าผมรีบมารอให้ไวกว่านี้ ผมก็จะได้กลับบ้านในรถเมล์รอบก่อนหน้านี้ แต่ผมก็ไม่ได้สนใจเพราะสำหรัลผมการรอมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร

 

“เลิกงานแล้วไปไหน หาอะไรกินกันไหม”

“ไปสิ รอไรล่ะ”

“เดี๋ยวนะแล้วไม่รีบกลับบ้านหรอ นี่มันใกล้จะถึงเวลารถเมล์ออกแล้วนะ ถ้าไม่ไปรถเมล์รอบนี้ต้องรออีก 2-3 ชั่วโมงเลย”

“รอได้ไม่เป็นไรหรอกน่า บ้านไม่หนีไปไหนหรอก”

“งั้นเอางี้ เดี๋ยววันนี้ไปส่งที่บ้านเอง”

“ขอบพระคุณมากครับ”

 

ทุกคนให้ความสนใจกับการรอรถเมล์ของผมมาก เพราะส่วนใหญ่เขาจะบอกว่าผมต้องใช้เวลารอรถเมล์ค่อนข้างนานเลยเป็นห่วงกลัวจะทำให้กลับบ้านดึก แต่ตัวผมเองผมก็ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้เท่าไหร่ กลับบ้านดึกก็ไม่เห็นเป็นอะไร ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนจะต้องจริงจังขนาดนั้นด้วย บางคนถึงกับอาสาไปส่งผมเพราะเขามองว่าไม่อยากให้ผมนั่งรอรถเมล์นานๆ บางคนไปส่งผมที่ป้ายรถเมล์เพราะกลัวว่าผมจะไม่ทันรถเมล์และต้องเสียเวลานั่งรออีกในรอบต่อไป สังคมเพื่อนร่วมงานของผมค่อนข้างเป็นสังคมที่ดีมาก ทุกคนดูเป็นห่วงผมแต่ตัวผมเองกลับมองว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

 

“มีงานต้องแก้เยอะเลยนะ ยังไงเอากลับไปทำที่บ้านวันนี้ แล้วพรุ่งนี้รีบทำมาส่งนะเพราะลูกค้าต้องใช้”

“รับทราบครับ”

 

ในวันนั้นผมมีงานที่ต้องเอาไปทำที่บ้าน แต่ผมก็ยังทำตัวไม่เดือดร้อนอะไรยังคงนั่งรอรถเมล์ 2-3 ชั่วโมงโดยที่ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย เเต่พอเริ่มนั่งนานๆไปผมก็รู้สึกว่าตอนนี้มันใกล้มืดขึ้นมาเรื่อยๆเวลาของผมในการทำงานก็จะน้อยลง ผมเริ่มเป็นเดือดเป็นร้อนกับการรอรถเมล์เป็นเวลานาน ถ้าผมออกจากบริษัทให้ไวกว่านี้ผมก็คงทันรถเมล์รอบก่อนหน้านี้ เเละป่านนี้ผมก็อาจจะนั่งทำงานที่บ้านแล้วก็ได้

 

“ฮัลโหล ถึงบ้านหรือยังอ่ะ พอดีมีงานที่ต้องแก้เพิ่มพี่ส่งลงไปในไดรฟ์แล้วนะ ลองเข้าไปดู”

“ยังไม่ถึงเลยครับพี่ นี่ผมนั่งรอรถเมล์นานแล้วรถเมล์ยังไม่มาเลย”

“อ้าว เเล้วแบบนี้จะแก้งานทันหรือเปล่า ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีงานส่งให้หัวหน้าก็เตรียมตัวโดนด่าได้เลย”

“ผมจะพยายามรีบกลับบ้านไปทำให้ไวที่สุดครับ แต่ตอนนี้ยังไม่มีวี่แววของรถเมล์เลย ปกติผมนั่งรอรถเมล์ได้เป็นชั่วโมงแต่ทำไมวันนี้ผมรู้สึกว่าแค่ 10 นาทีผมก็รอไม่ได้”

“ก็งี้แหละต้องรีบกลับไปแก้งานไง เวลา 10 นาทีก็มีค่า เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะยังไงงานที่อัพลงในไดรฟ์ไปดูด้วยนะ มีไม่เยอะแต่ก็ไม่น้อย”

“รับทราบครับพี่”

 

ในวันนี้ผมใช้เวลานั่งรอรถเมล์กลับบ้านทั้งหมด 3 ชั่วโมง ซึ่งเป็น 3 ชั่วโมงที่แสนทรมานที่สุดเพราะผมเป็นกังวลว่าผมจะทำงานไม่ทันส่งพรุ่งนี้ เมื่อผมถึงบ้านผมก็รีบอาบน้ำกินข้าวเตรียมตัวนั่งทำงาน แต่กว่าจะทำทุกอย่างเสร็จเวลาก็ปาไปจนดึกดื่น แล้วผมเริ่มง่วงนอนแต่ต้องฝืนทำงานต่อให้เสร็จ เเต่จู่ๆภาพก็ตัด ผมไม่รู้ตัวว่าผมหลับไปตอนไหนแต่เมื่อผมตื่นมาในตอนเช้าผมก็พบว่างานของผมยังไม่เสร็จตามที่เจ้านายสั่ง

 

“ซวยแล้ว ทำไงดี ทำไงดี ทำไงดี งานที่เจ้านายให้มายังไม่เสร็จเลย งานนี้ต้องโดนไล่ออกแน่ๆ ไอ้บ้าเอ้ย ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้ไปได้”

 

ผมไปสารภาพกับเจ้านายตามตรงว่าผมทำงานไม่เสร็จตามกำหนดเเละผมจะเร่งที่ทำให้ในวันต่อไป แต่สุดท้ายผมก็ถูกเจ้านายตำหนิติเตียนว่าเป็นคนที่ไม่มีความรับผิดชอบ ไม่ตรงต่อเวลา และอีกมากมายที่ฟังแล้วผมแทบจะหน้าชา ตัวชา ณ ตอนนั้น

 

“บอกเหตุผลมาสิว่าทำไมทำงานไม่เสร็จ รู้ไหมว่ากำลังทำให้บริษัทเดือดร้อน”

“ผมขอโทษครับพอดีผมนั่งรอรถเมล์นานไปหน่อย พอกลับบ้านไปมันก็ดึกมาก กว่าผมจะกินข้าวอาบน้ำเสร็จอีก สุดท้ายเวลาก็ไม่พอต่อการทำงาน”

“นั่งรอรถเมล์หรอ แล้วทำไมไม่รีบกลับให้มันตรงเวลาจะได้ไม่ต้องนั่งรอเป็นเวลานาน รู้ไหมนั่งรอรถเมล์ 3-4 ชั่วโมง เราสามารถทำงานคืบหน้าไปได้ตั้งเยอะ แต่นี่ไปเสียเวลานั่งรออย่างเปล่าประโยชน์ เรื่องแค่นี้ทำไมคิดไม่ได้”

“ผมขอโทษครับ เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก”

“จำไว้เป็นบทเรียนอย่าให้มันเกิดขึ้นอีก แล้วเดือนนี้เธอจะได้รับเงินเดือนไม่เต็มในฐานะที่ทำให้บริษัทเสียหาย ขาดความรับผิดชอบ ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกเดือนต่อไปเธอเตรียมตัวหางานใหม่ได้เลย”

 

ในวันนี้ผมได้เข้าใจเเล้วว่าคำพูดของเพื่อนร่วมงานหรือการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นห่วงผมในเรื่องของการนั่งรอรถเมล์เป็นเวลานาน ผมรู้ถึงสาเหตุแล้วว่าทำไมเขาจะต้องจริงจังขนาดนั้น เพราะการนั่งรอรถเมล์เป็นการเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์ ในเวลา 2 3 ชั่วโมงที่ผมนั่งรอรถเมล์แทนที่ผมจะได้ทำอะไรที่เกิดประโยชน์ แต่ผมกลับต้องนั่งรออยู่เฉยๆโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ความผิดทั้งหมดเป็นความผิดของผมเอง ถ้าหากผมรีบและมาให้ตรงเวลารถเมล์ออกผมก็คงไม่ต้องเสียเวลามานั่งรอนานขนาดนี้ แต่เป็นเพราะผมคิดว่ามันไม่สำคัญผมจึงไม่ได้ใส่ใจอะไร แต่เหตุการณ์ที่ผมโดนเจ้านายดุและตักเตือนทำให้ผมคิดได้ว่า เวลามันสำคัญมากแค่ไหนและเราไม่ควรเสียเวลาไปอย่างเปล่าประโยชน์

นานาสาระ ล่าสุด
Banner 1
Banner 2
Banner 3
Banner 4